top of page

The Globe Awards 2022

Public·62 members

[สตรีมสด@@@] เวนท์ฟอเรท กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 04/10/2023


13 ชั่วโมงที่ผ่านมา — “ต้องยอมรับว่า เวนท์ฟอเรท โคฟุ เป็นทีมที่มีผู้เล่นที่แข็งแกร่งมีการเล่นเกมรุก และเกมรับที่ดี การไปเล่นที่ออสเตรเลีย ในเกมแรก และกลับมาเล่นใน ...


ด้วยการเอาชนะ กระต่ายแก้ว บางกอกกล๊าส เอฟซี ไป 1-0 จากประตูชัยของ ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต ในนาทีที่ 56[16] เดินหน้าต่อกับแชมป์ที่ 2 โตโยต้า ลีกคัพ สมัย 4 สามารถเอาชนะ กูปรีอันตราย ศรีสะเกษ เอฟซี ที่เพิ่งเข้าชิงรายการนี้เป็นครั้งแรก ไป 1-0 จากประตูชัยของ โก ซุล-กิ ในนาทีที่ 18[17] สานต่อความสำเร็จในปีนี้ ด้วยแชมป์ที่ 3 ไทยพรีเมียร์ลีก และเป็นแชมป์ไร้พ่ายอีกด้วย โดยไม่แพ้ใครตลอด 34 นัด ชนะ 25 นัด และเสมอไป 9 นัด ทำประตูได้ถึง 98 ลูก มากที่สุดในลีก และเสียไปเพียง 24 ประตู ซึ่งน้อยที่สุดในลีก แถมจบซีซั่นด้วยการมีแต้มมากกว่า กิเลนผยอง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมรองแชมป์ถึง 13 คะแนนเลยทีเดียว ซึ่งการคว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกในครั้งนี้ เป็นการคว้าแชมป์สมัยที่ 3 ติดต่อกันของ ปราสาทสายฟ้า นอกจากนี้ ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต ยังคว้าตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดในไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ไปครอง หลังโชว์ฟอร์มสุดโหดเหี้ยม ซัดไป 33 ประตูอีกด้วย ส่วนคู่หู่ในแนวรุกของเขาอย่าง กิลแบร์โต มาเชนา ก็ยิงไป 21 ประตู ได้อันดับ 3 ขณะที่ ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายทีมชาติไทย ก็ทำแอสซิสต์ ไป 19 ครั้ง ซึ่งสูงสุดในลีกปีนี้ ตามมาติด ๆ กับแชมป์ที่ 4 แม่โขงคลับแชมเปียนชิพ ปราสาทสายฟ้า ในฐานะแชมป์ โตโยต้า ลีกคัพ พบกับ สิงห์ร้ายแห่งนครวัด เบิงเกต อังกอร์ ทีมชั้นนำแห่งศึกฟุตบอลลีกกัมพูชา ในศึกฟุตบอลแห่งศักดิ์ศรีเพื่อชิงความเป็นเจ้าสโมสรแห่งภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยเอาชนะไปได้ 1-0 จากลูกจุดโทษของ อันเดรส ตุญเญซ ในนาทีที่ 67 ช่วยให้ ปราสาทสายฟ้า คว้าแชมป์รายการนี้ไปครอง[18] และปิดท้ายปี พ. สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด - วิกิพีเดียจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดชื่อเต็มสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ดฉายาปราสาทสายฟ้า (The Lightning Castle) ก่อตั้งพ. ศ. 2513 ในชื่อ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคพ. 2553 ในชื่อ บุรีรัมย์ พีอีเอพ. 2555 ในชื่อ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดสนามช้างอารีนาความจุ32, 600 ที่นั่งเจ้าของบริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัดประธานเนวิน ชิดชอบผู้จัดการบริพัทธ์ สูนรอดผู้ฝึกสอนอาเธอร์ ปาปัสลีกไทยลีก2565–66ไทยลีก, อันดับที่ 1เว็บไซต์เว็บไซต์สโมสร สีชุดทีมเหย้า สีชุดทีมเยือน ฤดูกาลปัจจุบัน ทีมของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ฟุตบอล (ชาย) ฟุตบอลบี (ชาย) อีสปอร์ต สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพที่ตั้งอยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย เป็นหนึ่งในสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของประเทศ สโมสรก่อตั้งใน พ. เวนท์ฟอเรท โกฟุ (ญี่ปุ่น) เปิดรังรับมือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (ไทยแลนด์) ผลงานล่าสุด เวนท์ฟอเรท โกฟุ 30 ก. ย. เหย้าชนะมิโตะ ฮอลลี่ฮ็อค เจ-ลีก ดิวิชั่น 22-124 ก. เยือนเสมอชิมิสุ เอส-พัลส์ เจ-ลีก ดิวิชั่น 20-020 ก. เยือนเสมอเมลเบิร์น แชมเปี้ยนส์ลีก0-015 ก. เหย้าเสมอโตเกียวเวอร์ดี้ เจ-ลีก ดิวิชั่น 21-109 ก. เหย้าชนะโออิตะ ตรินิต้า เจ-ลีก ดิวิชั่น 23-203 ก. เยือนเสมอเวกัลตะ เซนได เจ-ลีก ดิวิชั่น 20-0 ชนะ 2 เสมอ 4 แพ้ 0 ผลงานล่าสุด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 25 ก. เยือนชนะบีอีซี เทโรศาสน ไทยลีก 11-220 ก. เหย้าชนะเจ้อเจียง เอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก4-115 ก. เหย้าชนะตราด เอฟซี ไทยลีก 14-026 ส. เยือนชนะสุโขทัย เอฟซี ไทยลีก 10-120 ส. เหย้าชนะลำพูน วอริเออร์ ไทยลีก 13-012 ส. เยือนเสมอขอนแก่น ยูไนเต็ด ไทยลีก 10-0 ชนะ 5 เสมอ 1 แพ้ 0 ผลงานล่าสุดของ เวนท์ฟอเรท โกฟุ ยังไม่แพ้ใครโดย ชนะ 2 เสมอ 4 แพ้ 0 ยิงได้ 6 ประตูและเสีย 4 ประตู จากการลงสนาม 6 นัดหลังสุด ส่วน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมยังไม่แพ้ใครโดย ชนะ 5 เสมอ 1 แพ้ 0 ยิงได้ 14 ประตูและเสีย เพียง 2 ประตู จากการลงสนาม 6 นัดหลังสุด ผลงานในบ้าน เวนท์ฟอเรท โกฟุ 30 ก. เหย้าชนะมิโตะ ฮอลลี่ฮ็อค เจ-ลีก ดิวิชั่น 22-115 ก. เหย้าชนะโออิตะ ตรินิต้า เจ-ลีก ดิวิชั่น 23-219 ส. เหย้าแพ้จูบิโล อิวาตะ เจ-ลีก ดิวิชั่น 20-106 ส. ซี. บุรีรัมย์ พีอีเอ จบฤดูกาลแรกหลังเปลี่ยนผ่านด้วยการเป็นรองแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2553 สโมสรยังเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศของ ลีกคัพ 2553 แต่แพ้ การท่าเรือไทย 1–2 ที่ สนามศุภชลาศัย ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย[แก้] บุรีรัมย์ยูไนเต็ดเป็นแชมป์เอฟเอคัพในปี พ. 2554 ในปี 2554 บุรีรัมย์ พีอีเอ ภายใต้การฝึกสอนของ อรรถพล บุษปาคม หรือ โค้ชแต๊ก อดีตผู้เล่นทีมชาติไทย จบฤดูกาล 2554 ด้วยการคว้าเทรเบิลแชมป์ภายในประเทศ ได้แก่ ไทยพรีเมียร์ลีก เอฟเอคัพ และลีกคัพ บุรีรัมย์ คว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2554 ด้วยคะแนน 85 คะแนน สูงสุดในประวัติศาสตร์ของลีก พวกเขาเอาชนะคู่ปรับสำคัญอย่าง เมืองทองยูไนเต็ด ในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ 2554 และคว้าแชมป์เอฟเอคัพสมัยแรกของพวกเขา หลังประสบความสำเร็จมา 2 รายการ บุรีรัมย์ล้างแค้นด้วยการเอาชนะ การท่าเรือไทย ที่คว้าแชมป์ลีกคัพปี 2553 ในรอบชิงชนะเลิศ ทำให้บุรีรัมย์ พีอีเอ กลายเป็นสโมสรฟุตบอลไทยทีมแรกที่คว้าเทรเบิลแชมป์ได้ในฤดูกาลเดียว สนามบุรีรัมย์ ปราสาทสายฟ้า สร้างขึ้นในปี 2554 ได้รับการบันทึกในบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ ว่าเป็นสนามฟุตบอลมาตรฐานฟีฟ่าที่ใช้เวลาก่อสร้างสั้นที่สุดเพียง 256 วัน[6] ฤดูกาล 2555–2557: ปรับโครงสร้างทีมและผลงานระดับทวีปอันโดดเด่น[แก้] ที่พักของนักฟุตบอลสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ภายหลังการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเทศไทย พ. และ แชมป์ โตโยต้า พรีเมียร์ คัพ 2557 พร้อมกับจบที่อันดับ 1 ใน ไทยพรีเมียร์ลีก 2557 ฤดูกาล 2558: คว้าแชมป์ห้ารายการ[แก้] สนามศุภชลาศัยเป็นสนามแข่งขันที่บุรีรัมย์คว้าแชมป์ถึง 4 รายการ (ถ้วย ก., ลีกคัพ, แม่โขง และเอฟเอคัพ) ในปี 2558 ถือเป็นปีทองของทัพ ปราสาทสายฟ้า เมื่อสามารถคว้าแชมป์มาประดับตู้โชว์ได้ถึง 5 รายการ แม้ว่าจะตกรอบแบ่งกลุ่มของศึกเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกก็ตาม ซึ่งก่อนที่ฤดูกาลนี้จะเริ่มต้น ปราสาทสายฟ้า เสริมทัพนักเตะเข้าสู่ทีมหลายราย ไม่ว่าจะเป็น นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, กรวิทย์ นามวิเศษ, นฤพล อารมณ์สวะ, โก ซุล-กิ, กิลแบร์โต มาเชนา, ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต ซึ่งถือว่าเป็นขุมกำลังของทีมในฤดูกาล 2558 เปิดฉากความยิ่งใหญ่ด้วยแชมป์แรก ฟุตบอลถ้วยพระราชทานประเภท ก. "ปาปาส- ธีราทร" เผยความพร้อม "ปราสาทสายฟ้า" ก่อนบู๊ "เวนท์ฟ 10 ชั่วโมงที่ผ่านมา — ความเคลื่อนไหวก่อนการฟาดแข้งในศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2023/24 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอช นัดสอง ของสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เตรียมลงเล่นเกมเยือนพบกับ เวนท์ฟอเรท โคฟุ ทีมจาก ... ดร. นพ. ประวีร์ สิริเธียรทรรศน์ ทีมงานผู้ฝึกสอน[แก้] หัวหน้าผู้ฝึกสอน อาเธอร์ ปาปัส[60] ผู้อำนวยการเทคนิค ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน ฮิโรอากิ นากะมิเนะ เฉลิมชัย ชินเชิดพงษ์ (ล่ามภาษาอังกฤษ) โซรัน มิจาโนวิช (Defensive Coach) ผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตู โซรัน มิจาโนวิช ผู้ฝึกสอนฟิตเนส สัตยา ภูสีน้อย วีระชัย ไทยแท้ สโตจาน วาลันด์ นักกายภาพ สุริยา จักรวาโชติ โจเซ เลรา โซรัน กูการ์ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาเยาวชน ชนน์ชนก ชิดชอบ มาซายูกิ มิอูระ จิตราวุธ ฉัตรชัยพลรัตน์ (ผู้จัดการทีมอะคาเดมี่) หัวหน้าผู้ฝึกสอนชุดเยาวชน จิตราวุธ ฉัตรชัยพลรัตน์ อานนท์ แก้วพฤกษ์ สุริยา ดอมไธสงค์ ฐาพล วันทายุทธ ภาณุพงษ์ สุวัฒน์ศรีสกุล ศักดา ปัญญาใส พีระพล ลายนวล สุมล กล้าครบ นักรบ กล้าศึก มนัส ผายผัน สญชัย เมนขุนทด เอกสถา ธัญญกรรม ทำเนียบผู้ฝึกสอน[แก้] รายชื่อผู้ฝึกสอน (2550 - ปัจจุบัน) อรรถพล บุษปาคม หนึ่งในผู้ฝึกสอนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดกับสโมสร ระยะเวลา ความสำเร็จ โชเซ อัลเวส เบอร์วิส ประพล พงษ์พาณิชย์ 2551 – พฤษภาคม 2552 ชนะเลิศ ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก 2551 ทองสุข สัมปหังสิต พฤษภาคม 2552 – ตุลาคม 2552 ธนเดช ฟูประเสริฐ พฤศจิกายน 2552 – พฤษภาคม 2553 อรรถพล บุษปาคม 2 พฤษภาคม 2553 – 2 พฤษภาคม 2556 รองชนะเลิศ ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก 2553รองชนะเลิศ โตโยต้า ลีกคัพ 2553ชนะเลิศ ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก 2554ชนะเลิศ ไทยคม เอฟเอคัพ 2554ชนะเลิศ โตโยต้า ลีกคัพ 2554ชนะเลิศ โตโยต้า พรีเมียร์คัพ 2555รองชนะเลิศ ถ้วยพระราชทาน ก. การทำนาย Ventforet Kofu vs บุรีรัมย์ยูไนเต็ด, อัตราต่อรองและ 16 ชั่วโมงที่ผ่านมา — เวนท์ฟอเรท โกฟู vs บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รายชื่อตัวจริง. Updating... AFC Champions League Standings. AFC Champions League 23/24, Group H Table ... 2513 ในชื่อ "สโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค" และประสบความสำเร็จอย่างมากโดยชนะเลิศไทยลีก 8 สมัย และจบรองชนะเลิศ 3 ครั้ง (กรณีไม่นับรวมช่วงการไฟฟ้าฯ) สีประจำสโมสรคือ สีกรมท่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เข้าร่วมไทยลีกในฤดูกาล 2553 ในชื่อ "บุรีรัมย์ พีอีเอ" หลังจากที่ เนวิน ชิดชอบ ซื้อกิจการสโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในปลายปี 2552 และแข่งขันในลีกสูงสุดครบทุกฤดูกาล โดยเคยคว้าแชมป์ไทยลีกถึงสามฤดูกาลติดต่อกันตั้งแต่ปี 2556–2558 และทำสถิติเก็บคะแนนสูงสุดของไทยลีกในฤดูกาล 2561 ที่ 87 คะแนน[1] นอกจากนี้ ยังเคยเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศในเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกปี 2556 ซึ่งนับเป็นผลงานที่ดีที่สุดในระดับทวีปของสโมสร ปัจจุบัน สโมสรลงเล่นเกมเหย้าที่ช้างอารีนา[2] สนามแห่งนี้มีความจุ 32, 600 ที่นั่ง ถือเป็นสนามฟุตบอลเพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทยที่มีสโมสรฟุตบอลเป็นเจ้าของ[3] บุรีรัมย์มีสโมสรคู่ปรับที่สำคัญคือ เมืองทอง ยูไนเต็ด โดยทั้งคู่เป็นเพียงสองสโมสรที่คว้าแชมป์ลีกในช่วงปี 2553 ถึง 2561 ประวัติสโมสร[แก้] การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 2513–2552[แก้] ตราสโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ใช้ถึงปี 2552 สโมสรก่อตั้งขึ้นในปี 2513 จากนั้นสโมสรได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่ไทยลีกดิวิชั่น 1 (ปัจจุบันคือไทยลีก 2) ในฤดูกาล 2546 สโมสรจบอันดับ 3 ในไทยลีกดิวิชั่น 1 จากนั้นพวกเขาแข่งขันเพลย์ออฟเลื่อนชั้น-ตกชั้นไทยลีก แต่แพ้ 0–1 ให้กับสโมสรฟุตบอลพนักงานยาสูบ อีกหนึ่งปีต่อมาพวกเขาประสบความสำเร็จเมื่อจบฤดูกาล 2547 ด้วยการคว้ารองแชมป์และเลื่อนชั้นสู่ไทยพรีเมียร์ลีก สโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนด้วยการเป็นรองแชมป์ลีกเมื่อจบฤดูกาลแรกของพวกเขาในไทยพรีเมียร์ลีก การเป็นรองแชมป์ลีกทำให้สโมสรได้สิทธิ์เข้าร่วมเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก เป็นการเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติครั้งแรกของสโมสร แม้กระนั้น สโมสรตกรอบจากการแข่งขัน[4] ใน 2 ฤดูกาลต่อมา คือ 2549 และ 2550 สโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทำได้เพียงอันดับ 10 และ 8 เมื่อจบฤดูกาล ในปี 2551 สโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ย้ายถิ่นฐานมาที่อยุธยาและเล่นที่สนามกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำให้พวกเขามีฐานแฟนบอลเพิ่มขึ้น สโมสรเล่นภายใต้ฉายา ไฟฟ้า อยุธยา จากสื่อและแฟน ๆ ภายใต้การคุมทีมของ ประพล พงษ์พานิช หรือ โค้ชเหม่ง ในที่สุด สโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคก็คว้าแชมป์ไทยลีกสมัยแรกได้สำเร็จ สโมสรยังผ่านเข้ารอบ เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก 2009 รอบคัดเลือก ในปี 2552 สโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคตกรอบจากการแข่งขันเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2009 หลังจากแพ้ทีมสิงคโปร์อาร์มฟอร์ซ 1–4 ในช่วงต่อเวลาพิเศษที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน สโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเริ่มต้นการป้องกันแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกด้วยผลงานที่ย่ำแย่ ประพล พงษ์พานิช ถูกปลดออกกลางฤดูกาลและแทนที่ด้วยทองสุข สัมปหังสิต อดีตเฮดโค้ชทีมชาติไทย สโมสรจบอันดับที่ 9 จากทั้งหมด 16 อันดับ ลมหายใจแห่งบุรีรัมย์[แก้] ในเดือนธันวาคม 2552 มีการประกาศว่าเนวิน ชิดชอบ นักการเมืองชื่อดังเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสร เขาพยายามที่จะเทคโอเวอร์ ทีโอที เอสซี และสโมสรฟุตบอลทหารบก แต่ไม่สำเร็จ[5] เนวินย้ายสโมสรไปที่บุรีรัมย์ บ้านเกิดของเขา และรีแบรนด์เป็น สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ พีอีเอ บุรีรัมย์ พีอีเอ มีผู้เล่นส่วนใหญ่มาจากสโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รวมถึงดาวดังอย่าง รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค, อภิเชษฐ์ พุฒตาล, ธีราทร บุญมาทัน และสุเชาว์ นุชนุ่ม นักเตะทีมชาติไทยที่เซ็นสัญญาย้ายมาจากทีโอที เอส. ((นาฬิกา!)) เวนท์ฟอเรท กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 4 ตุลาคม 2566 | Lotus 57 นาทีที่ผ่านมา — (นาฬิกา!)) เวนท์ฟอเรท กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 4 ตุลาคม 2566 ค้นหา. นัดถัดไป. เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2023/24. เวนท์ฟอเรท โคฟุ. เวนท์ฟอเรท โคฟุ ? ? บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด. เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก เวนท์ฟอเรท โกฟุ vs บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พุธ 04 ต. ค. 66 เวลา 17:00 น. SIAMKICK สยามคิก วันพุธ 04 ตุลาคม 2566 เวลา 17:00 น. เวนท์ฟอเรท โกฟุ vs บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด วิเคราะห์บอล แชมเปี้ยนส์ลีก เอเอฟซี ฟุตบอล แชมเปี้ยนส์ลีก เอเอฟซี เวนท์ฟอเรท โกฟุ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด วันพุธ 04 ตุลาคม 2566 เวลา 17:00 น. ADVERTISEMENT วิเคราะห์บอล เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีกเวนท์ฟอเรท โกฟุ vs บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดวันพุธ 04 ตุลาคม 2566 เวลา 17:00 น. ศึกฟุตบอลถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก เอเอฟซี 2023-2024 วันพุธ 04 ตุลาคม 2566 เวลา 17:00 น. 2558 อย่างสมบูรณ์แบบ กับแชมป์ที่ 5 ช้าง เอฟเอคัพ โดยการเอาชนะ กิเลนผยอง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด คู่ปรับเก่าสมัยไทยพรีเมียร์ลีกไป 3-1 จากลูกจุดโทษของ อันเดรส ตุญเญซ ในนาทีที่ 45, โก ซุล-กิ ในนาทีที่ 51 และ จักรพันธ์ แก้วพรม ในนาทีที่ 70 คว้าแชมป์รายการนี้ไปครองเป็นสมัยที่ 4[19] และเป็นถ้วยแชมป์ที่ 5 ในปีนี้ รวมทั้งกลายเป็นสโมสรแรกจากทวีปเอเชีย ที่คว้าถ้วยรางวัล 5 ใบได้สำเร็จในฤดูกาลเดียวอีกด้วย[20] ฤดูกาล 2559: ตกอับและเสียผู้เล่นตัวหลัก[แก้] หลังฤดูกาลที่แล้วสามารถคว้าแชมป์ได้ถึง 5 รายการ ปราสาทสายฟ้า ก็ได้มีการเสริมทัพนักเตะเข้าสู่ทีมเพิ่มอีกหลายรายเพื่อป้องกันทั้ง 5 แชมป์ในฤดูกาล 2559 และคว้าแชมป์ เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก ให้ได้ ไม่ว่าจะเป็น อดุล หละโสะ, อังเดร ฟรานซิสโก้ โมริตซ์, ดานิโล ซิลิโน่ เดอ โอลิเวียร่า, สถาพร แดงสี, อนันต์ บัวแสง, เอมิเลียโน่ อัลฟาโร่ และได้จัดการแข่งขันรายการ ช้าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เอเชียนทัวร์ 2016 ขึ้นในวันที่ 22 - 31 มกราคม โดยรายได้มอบให้กับการกุศล โดยนัดแรกไปเยือน กัมพูชา ออลสตาร์ ในวันที่ 22 มกราคม จบ 90 นาทีเสมอกันที่ 2-2 โดยฝั่ง ปราสาทสายฟ้า ได้ประตูจาก สุเชาว์ นุชนุ่ม กัปตันทีมในนาทีที่ 45 และ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต ซึ่งลงมาเป็นตัวสำรองในภายหลังในนาทีที่ 83 ส่งผลให้ต้องดวลจุดโทษกันและเป็น กัมพูชา ออลสตาร์ ที่ชนะไป 4-3 รวมผลสกอร์ 6-5[21] แต่หลังจากนันก็มาพลิกล็อกใน 2 นัดสุดท้าย ซึ่งชนะทั้งหมด โดยเปิดบ้านชนะ โปฮัง สตีลเลอส์ ยอดทีมจาก เคลีก ในประเทศเกาหลีใต้ ไป 2-1 จาก อังเดร ฟรานซิสโก้ โมริทซ์ ในนาทีที่ 9 และ ดานิโล ซิลิโน่ เดอ โอลิเวียร่า ในนาทีที่ 33[22] และบุกไปชนะ ออลสตาร์ ลาว ไป 3-1 จาก อังเดร ฟรานซิสโก้ โมริทซ์ ในนาทีที่ 2 และ 30 และจุดโทษโดย อันเดรส ตุญเญซ ในนาทีที่ 24[23] หลังจากนั้น ดานิโล ซิลิโน่ เดอ โอลิเวียร่า ย้ายทีมแต่ก็ได้กองหน้าคนใหม่ คือ ไคโอะ ฟิลิปเป้ กอนซาเวซ รวมทั้ง คิม ซึง ยอง และ เวสลีย์ เฟย์โตซ่า หลังจากเตรียมทีมมา 1 เดือน ปราสาทสายฟ้า ก็สามารถคว้าแชมป์ โตโยต้า พรีเมียร์คัพ 2015 เป็นแชมป์แรกได้สำเร็จ โดยเอาชนะ อัลบิเร็กซ์ นีงะตะ จากเจลีกไปได้ 2-1 จากลูกเตะมุมของ ธีราทร บุญมาทัน เปิดให้กับ โก ซุล-กิ โหม่งในนาทีที่ 50 และ 79[24] ต่อมาอีกหนึ่งสัปดาห์ ปราสาทสายฟ้า ก็สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยพระราชทานประเภท ก. การทำนาย Ventforet Kofu vs บุรีรัมย์ยูไนเต็ด, อัตราต่อรองและเคล็ดลับการเดิมพัน 10/04/2023[ทำนายเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก] ใครจะครองบัลลังก์สูงสุดในการประลองเวนต์ฟอเรต์ โคฟู vs บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด? นักวิเคราะห์การทำนายของเราให้คำแนะนำในการเดิมพันและราคาต่อรองในปัจจุบันสำหรับการแข่งขันที่ทุกคนตั้งตารอคอยนี้ การทำนายเวนต์ฟอเรต โคฟุ vs บุรีรัมย์ยูไนเต็ด:เวนต์ฟอเรต โคฟุ มีกำหนดไปเยือนสนามกีฬาโอลิมปิกแห่งชาติในวันที่ 10/04/2023 เพื่อเผชิญหน้ากับบุรีรัมย์ยูไนเต็ดในการแข่งขัน AFC Champions League อ่านต่อเพื่อดูคำทำนาย ผลการสำรวจ และสถิติการแข่งขันระหว่าง เวนท์ฟอเรต โคฟู พบ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พร้อมด้วยอัตราต่อรองล่าสุด การทำนายเวนต์ฟอเรต โคฟุ vs บุรีรัมย์ยูไนเต็ด: ผลงานล่าสุดและสถิติ H2H เวนท์ฟอเรท โกฟุ 5 นัดหลังสุด Ventforet Kofu การแข่งขันล่าสุด เวนท์ฟอเรท โกฟุ 5 นัดหลังสุด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 5 นัดหลังสุด Buriram United การแข่งขันล่าสุด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 5 นัดหลังสุด เวนต์ฟอเรต โกฟู vs บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อัตราต่อรองปัจจุบัน AFC Champions League Ventforet Kofu Buriram United เวนต์ฟอเรต โกฟู vs บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อัตราต่อรองปัจจุบัน ทีเด็ดบอล เวนท์ฟอเรท โกฟู vs บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เวนท์ฟอเรต โคฟุ vs บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด การทำนาย 1: เวนท์ฟอเรต โคฟุจะชนะ ทีเด็ดบอล เวนท์ฟอเรท โกฟู vs บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด การทำนายเวนต์ฟอเรตโคฟู vs บุรีรัมย์ยูไนเต็ด 2: ประตูรวมต่ำกว่า 2. ALC จับแบ่งกลุ่ม ลุ้น 3 ทีมไทยเจอทีมไหน, ALC จับแบ่งกลุ่ม ลุ้น 3 ทีมไทยเจอทีมไหน, "เจ" อาจได้ดวลทีมเก่า Format Date is Date(Ymd), length 8! เวลา. | 142 view @Admin สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) เตรียมจัดงานจับสลากแบ่งสายการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2023-24 รอบแบ่งกลุ่ม หลังจากจบสิ้นการแข่งขันในรอบเพลย์ออฟ โดยมีทีมสโมสรจากประเทศไทย 3 ทีม แยกอยู่คนละโถประกอบด้วย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อยู่โถ 1, ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด อยู่โถ 2 และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด อยู่โถ 4 สำหรับระเบียบการจับสลากแบ่งกลุ่มของ เอเอฟซี ในกรณีที่จับได้ ทีมที่มาจากประเทศเดียวกันต้องทำการจับสลากใหม่ ทำให้ทีมจากประเทศไทย มีโอกาสเจอคู่แข่งจากชาติต่างๆ ที่ไม่ซ้ำประเทศ ซึ่งทำให้ทีม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่มี “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ เป็นเพลย์เมคเกอร์อาจจะได้เจอกับทีมเก่าในเจลีก อย่าง คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ส่วนงานจับสลากแบ่งกลุ่มจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม 66 ณ ที่ทำการสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย ที่กรุงกัวลาลัมเบอร์ ประเทศมาเลเซีย ในเวลา 15. "ชิโนดะ" เร้าชาวอาทิตย์อุทัย ร่วมเชียร์ "เวนท์ฟอเรท" เกมชน "บุรีรัมย์"“โยชิยูกิ ชิโนดะ” กุนซือ “เวนท์ฟอเรท โคฟุ” เผยก่อนเกมปะทะ “ปราสาทสายฟ้า” ในศึก ACLความเคลื่อนไหวก่อนการแข่งขันในศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2023/24 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอช นัดสอง ณ ห้องแถลงข่าวสนามกีฬาแห่งชาติญี่ปุ่น ในกรุงโตเกียว เจ้าถิ่นมี โยชิยูกิ ชิโนดะ ผู้ฝึกสอน และ มาซาฮิโระ เซกิงูชิ ปราการหลังของทีม ได้เผยความพร้อมของทีมก่อนรับมือกับ บุรีรัมย์ ยูไนต็ด ทีมแกร่งจากไทยลีกโดยทาง โยชิยูกิ ชิโนดะ กุนซือของ “เวนท์ฟอเรท โคฟุ” เผยว่า… “เกมนี้ถือเป็นเกมที่ไม่ง่ายสำหรับพวกเราเลย ที่จะเล่นกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และยิ่งเกมนี้ถือเป็นเกมแรกของเราอย่างเป็นทางการในการเล่นเป็นทีมเหย้าบนเวทีฟุตบอลถ้วยระดับเอเชีย อย่างเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ผมมีความมั่นใจว่าจะเก็บ 3 คะแนนได้ แต่ก็จะไม่ประมาท เพราะว่าบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มี อาเธอร์ ปาปาส ซึ่งเป็นโค้ชที่ทำฟุตบอลได้ดีทำทีมอยู่”“บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ มารินอส ไม่ได้มีรูปแบบการเล่นที่เหมือนกันเท่าไหร่ แต่อาจจะมีบางจุดในการเล่นเกมบุก ในการขึ้นเกมที่ดูคล้ายกัน ก็อยากจะให้แฟนบอลชาวญี่ปุ่นเข้ามาช่วยกันเชียร์เรา แม้ว่าเราจะเป็นทีมเล็ก ๆ แต่เราก็พร้อมจะสู้เพื่อเก็บ 3 คะแนนแรกในบ้าน”ด้าน มาซาฮิโระ เซกิงูชิ นักเตะแนวรับของทีมกล่าวว่า…”เกมนี้ตื่นเต้นมาก เพราะเป็นเกมแรกในบ้านสำหรับศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ของทีมเรา มันไม่ใช่เกมที่ง่ายเลย แต่ผม และเพื่อนร่วมทีมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อที่จะเก็บ 3 คะแนนให้ได้” “บีจี ปทุมฯ” สุดต้านเปิดบ้านแพ้ “ยะโฮร์” 2-4 ในศึก ACL นัดที่ 2 ไฮไลท์บอลไทย ACL 2023/24: บีจี ปทุม vs ยะโฮร์ (3-10-66) “ปาปาส- ธีราทร” เผยความพร้อม “ปราสาทสายฟ้า” ก่อนบู๊ “เวนท์ฟอเรท”สำหรับโปรแกรมการแข่งขันในศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2023/24 นัดที่ 2 ของกลุ่มเอช คู่ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะบุกไปเยือน เวนท์ฟอเรท โคฟุ ที่สนาม Japan National Stadium ในวันพุธที่ 4 ตุลาคม 2566 เวลา 17. เวนท์ฟอเรท โกฟุ vs บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 04.10.2023 ? คะแนนสดของเกม ในอีก 7 ชั่วโมง — ผลการแข่งขันบาสเกตบอลและคะแนนสดทั้งหมดของการแข่งขัน เวนท์ฟอเรท โกฟุ vs บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด? 04.10.2023 ? สถิติเกมออนไลน์บนเว็บไซต์? ผลการแข่งขันสดของเกม การแข่งขัน ... 2554 ฝ่ายเจ้าของสิทธิ์ของสโมสรเดิม คือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งเดิมอยู่ในการกำกับดูแลของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล จาก พรรคภูมิใจไทย ได้เปลี่ยนมาอยู่ในการกำกับดูแลของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ จาก พรรคเพื่อไทย ได้มีนโยบายที่จะย้ายสโมสรออกจากจังหวัดบุรีรัมย์ ผลการเจรจาได้ข้อสรุปว่าฝ่ายนายเนวินจะขายหุ้น 70% [7] ที่ตนถืออยู่ออกไป จะแยกทีมการไฟฟ้าออกจากจังหวัดบุรีรัมย์และย้ายไปอยู่จังหวัดอื่น ส่วนนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีมบุรีรัมย์-พีอีเอเดิม จะไปรวมกับสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ เอฟซี ที่ได้แชมป์ ดิวิชั่น 1 และเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2555 พร้อมกับเปลี่ยนชื่อทีมเป็น "สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" [8] นายเนวินกล่าวว่า ในฤดูกาล 2555 สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (บุรีรัมย์ เอฟซีเดิม) จะลงเล่นในไทยพรีเมียร์ลีก และเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก ด้วยโควตาชนะเลิศฤดูกาล 2554 ของบุรีรัมย์-พีอีเอ [9] เมื่อวันที่ 9 มกราคม พ. 2555 นายเนวินได้เปิดแถลงข่าวว่า ได้ซื้อหุ้นอีก 30% ของสโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มาบริหารจัดการเองทั้งหมด รวมทั้งสิทธิทั้งหมดในนามการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จากนั้นจะเปลี่ยนชื่อทีมเป็น "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" ตามแผนเดิม ส่วนสิทธิการเล่นในไทยพรีเมียร์ลีกของบุรีรัมย์ เอฟซีนั้น จะโอนให้กับ สงขลา เอฟซี ของนายนิพนธ์ บุญญามณี ส่วนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนั้น จะไม่มีการส่งทีมเข้าแข่งขันรายการของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยอีกต่อไป [10] ในฤดูกาล 2555 บุรีรัมย์จบอันดับ 4 ใน ไทยพรีเมียร์ลีก 2555 และคว้าแชมป์ ไทยคม เอฟเอคัพ 2555 ด้วยการชนะอาร์มี่ ยูไนเต็ด ไป 2–1 ซึ่งได้สิทธิไปเล่น เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก 2013 รอบคัดเลือก[11] และคว้าแชมป์ โตโยต้า ลีกคัพ 2555 ด้วยการชนะ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ไป 4–1[12] ซึ่งเป็นดับเบิ้ลแชมป์บอลถ้วยและบุรีรัมย์ยูไนเต็ดสามารถป้องกันแชมป์ทั้งสองรายการได้อีกหนึ่งสมัยอีกด้วย ฆาบิเอร์ ปาติญโญ เป็นผู้ทำประตูสูงสุดอันดับที่ 2 ของสโมสรในฤดูกาล 2556 โดยเป็นรองเพียงการ์เมโล กอนซาเลซ ในฤดูกาล 2556 บุรีรัมย์จบอันดับ 1ใน ไทยพรีเมียร์ลีก 2556 และคว้าแชมป์ ไทยคม เอฟเอคัพ 2556ด้วยการชนะ สโมสรฟุตบอลบางกอกกล๊าส ไป 3–1 ซึ่งได้สิทธิไปเล่น เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก 2014 รอบแบ่งกลุ่ม[13] และคว้าแชมป์ โตโยต้า ลีกคัพ 2556สมัยที่3 ด้วยการชนะ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ไป 2–1[14] ซึ่งเป็นดับเบิ้ลแชมป์บอลถ้วยและบุรีรัมย์ยูไนเต็ดสามารถป้องกันแชมป์ทั้งสองรายการได้อีกหนึ่งสมัยอีกด้วย เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก 2013 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีม ในฤดูกาล 2557 บุรีรัมย์คว้าแชมป์ ถ้วยพระราชทาน ก. ได้อีกสมัย โดยสามารถเอาชนะคู่ปรับที่ยังไม่เคยชนะ ปราสาทสายฟ้า ได้เลย คือ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ไปได้ถึง 3-1 จาก ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต ในนาทีที่ 14, จุดโทษของอันเดรส ตุญเญซ ในนาทีที่ 66 และ จักรพันธ์ แก้วพรม ในนาทีที่ 83[25] กลางฤดูกาล 2559 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ปล่อยตัวธีราทร บุญมาทันให้แก่เมืองทอง ยูไนเต็ด สโมสรคู่ปรับตลอดกาล ในเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่ม ปราสาทสายฟ้า ซึ่งถูกจับอยู่ในกลุ่มเอฟร่วมกับ เอฟซี โซล, ซานตงลู่เนิ่งไท่ชาน และซานเฟรซ ฮิโรชิมะ ปรากฏว่าทำผลงานได้ย่ำแย่มาก ไม่ชนะใครเลย เสมอ 1 และแพ้ 5 ตกรอบแบ่งกลุ่ม โดยเป็นทีมอันดับสุดท้ายของกลุ่ม และเป็นทีมที่สถิติที่แย่ที่สุดของเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกในปีนี้อีกด้วย[26] และเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ. 2559 แฟนเพจอย่างเป็นทางการของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด [27] เปิดเผยแถลงข่าวการขาย ธีราทร บุญมาทัน ให้กับทีมร่วมลีกอย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีข้อเสนอซื้อจากหลายทีม หลังจบฤดูกาล 2559 ที่ไม่ค่อยสวยงาม ในไทยลีก ปราสาทสายฟ้า แข่งทั้งหมด 30 นัด มี 55 คะแนน ชนะ 15 เสมอ 10 แพ้ 5 อยู่อันดับที่ 4 ไม่สามารถไปเล่นเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2553[28] ส่วนในการแข่งขันฟุตบอล ในโตโยต้า ลีกคัพ ปราสาทสายฟ้า คว้าแชมป์ร่วมกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด โดย ปราสาทสายฟ้า เลือกลงแข่งขันแม่โขงคลับแชมเปียนชิพ ส่วนในช้าง เอฟเอคัพ ปราสาทสายฟ้า ยุติเส้นทางไว้ที่รอบ 16 ทีมสุดท้าย หลังบุกไปแพ้คู่ปรับตลอดกาลอย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 3-1[29] และเมื่อเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แพ้ชลบุรี เอฟซี 3-0 จึงทำให้ไม่สามารถไปเล่นเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2553[30] 2560–2561: ทวงคืนแชมป์ลีกและสร้างสถิติใหม่สองปีซ้อน[แก้] สนามไอ-โมบาย ในเดือนมกราคม 2560 เนวิน ชิดชอบได้เปิดตัวสโมสรด้วยสโลแกน "สไตรค์แบ็ค" หรือทวงคืนทุกแชมป์[31] สโมสรประเดิมฤดูกาล 2560 ในรายการแม่โขงคลับแชมเปียนชิพ แม้ว่าในเลกแรกจะบุกไปแพ้ล้านช้าง ยูไนเต็ดที่ประเทศลาว 1–0[32] แต่ในเลกที่สอง บุรีรัมย์กลับมาเอาชนะไปได้ 2–0 นับผลประตูรวม 2–1 ทำให้ทีมป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ[33] ต่อมาในการแข่งขันรายการหลักอย่างไทยลีก บุรีรัมย์ประเดิมสนามได้ไม่ดีนัก พวกเขาต้องเปิดบ้านไล่ตามตีเสมอชลบุรี 2–2 หลังจากที่โดนนำ 0–2 ในครึ่งแรก แต่หลังจากนั้น ทีมไม่แพ้ใครใน 11 นัดแรก โดยหนึ่งในนั้นมีเกมที่บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะคู่ปรับตลอดกาลอย่างเอสซีจี เมืองทองด้วยผล 2–0 จากประตูของฌาฌาและสุเชาว์ นุชนุ่ม[34] ทีมเก็บคะแนนอย่างต่อเนื่องจนสามารถทำคะแนนเทียบเท่าเมืองทองหลังจบเลกแรก โดยเป็นรองเพียงแค่ผลต่างประตูได้-เสีย อย่างไรก็ตาม รันกอ ปอปอวิช ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอน[35] โดยมีโบซีดาร์ บันโดวิช เข้ามาคุมทีมต่อ[36] ในเลกที่สอง บุรีรัมย์ชนะถึง 16 นัดและเสมอเพียงนัดเดียวในการพบกับเมืองทอง พวกเขาคว้าแชมป์ไทยลีกอย่างเป็นทางการในเกมนัดที่ 32 ที่เปิดบ้านเอาชนะโปลิศ เทโร 4–0 และยังสามารถทำสถิติเก็บคะแนนในลีกมากที่สุดที่ 86 คะแนน หลังจากบุกไปชนะชลบุรี 2–1 ในเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาล[37] อย่างไรก็ตาม ในการแข่งขันฟุตบอลถ้วย บุรีรัมย์ตกรอบก่อนรองชนะเลิศของทั้งโตโยต้า ลีกคัพ (แพ้เมืองทอง 0–2)[38] และช้าง เอฟเอคัพ (แพ้เชียงราย ยูไนเต็ด 1–0) บุรีรัมย์ประเดิมฤดูกาล 2561 ด้วยการแข่งขันไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพ เป็นการพบกันระหว่างแชมป์ไทยลีก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และแชมป์เอฟเอคัพ สิงห์เชียงราย ยูไนเต็ด ผลการแข่งขันในเวลาจบลงด้วยผลเสมอ 2–2 ก่อนที่บุรีรัมย์จะพ่ายจุดโทษ 7–8 ต่อมาในการแข่งขันเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก บุรีรัมย์อยู่ในกลุ่มจี ร่วมกับกว่างโจวเอเวอร์แกรนด์, เซเรซโซ โอซากะ และเชจูยูไนเต็ด ซึ่งบุรีรัมย์สามารถผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จหลังจากที่บุกไปเอาชนะเชจูยูไนเต็ด 1–0 ทำให้บุรีรัมย์เป็นสโมสรแรกจากไทยที่สามารถบุกไปเอาชนะสโมสรเกาหลีใต้ได้อีกด้วย[39] ต่อมาในรอบ 16 ทีมสุดท้าย บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะช็อนบุกฮุนไดมอเตอส์จากเกาหลีใต้ในเลกแรกไปได้ 3–2 ก่อนที่จะบุกไปแพ้ในเลกที่สอง 0–2 ทำให้บุรีรัมย์แพ้ด้วยผลประตูรวม 3–4 สิ้นสุดเส้นทางในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ส่วนในการแข่งขันไทยลีก บุรีรัมย์ประเดิมสนามด้วยการเอาชนะราชบุรี มิตรผลไปได้ 2–1 ทีมคว้าแชมป์ไทยลีกสมัยที่ 6 ในเกมนัดที่ 31 ที่เปิดบ้านเอาชนะโปลิศ เทโรไปได้ 2–0 และในนัดสุดท้ายที่บุกไปชนะราชบุรี มิตรผล 1–0 นั้น บุรีรัมย์เก็บคะแนนในลีกมากที่สุดที่ 87 คะแนน ทำลายสถิติเดิมของตนเองเมื่อฤดูกาลที่แล้ว[1] แต่ในการแข่งขันฟุตบอลถ้วย บุรีรัมย์ตกรอบรองชนะเลิศของโตโยต้า ลีกคัพด้วยการพ่ายแพ้ต่อบางกอกกล๊าส 1–2 ที่สนามบุณยะจินดา[40] ส่วนในช้าง เอฟเอคัพ บุรีรัมย์ได้เข้าชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ต่อสิงห์เชียงราย 2–3 2562–2564: ไร้ความสำเร็จ[แก้] ป้ายโฆษณาชุดแข่งขันของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดประจำฤดูกาล 2562 ที่ช้างอารีนา ในฤดูกาล 2562 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ประเดิมแชมป์ไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพสมัยแรก ด้วยการล้างตาเอาชนะสิงห์เชียงราย 3–1[41] อย่างไรก็ตาม สโมสรทำผลงานในเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกได้ไม่ดีนัก โดยเก็บได้เพียง 4 คะแนนจากการแข่ง 6 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม ไม่สามารถผ่านเข้าสู่รอบแพ้คัดออกได้[42] เช่นเดียวกันกับในไทยลีกที่สโมสรก็ทำผลงานได้ไม่ค่อยดีเช่นกัน พวกเขาต้องลุ้นแย่งแชมป์กับสิงห์เชียงราย และการท่าเรือจนถึงช่วงสุดท้ายของฤดูกาล และในเกมลีกนัดสุดท้ายของฤดูกาล บุรีรัมย์บุกไปเยือนเชียงใหม่ โดยในนัดนี้ ถ้าบุรีรัมย์ชนะ หรือ บุรีรัมย์ เสมอหรือแพ้ แล้วสิงห์เชียงรายไม่ชนะ บุรีรัมย์จะคว้าแชมป์ไทยลีกสมัยที่ 7 ทันที แต่สุดท้าย บุรีรัมย์ทำได้เพียงเสมอเชียงใหม่ 1–1 ส่วน สิงห์เชียงราย บุกไปเอาชนะ สุพรรณบุรี 5–2 ทำให้ทั้งสองทีมมีคะแนนเท่ากัน แต่สิงห์ เชียงราย มีสถิติการพบกันตัวต่อตัว (เฮด-ทู-เฮด) เหนือกว่าบุรีรัมย์ ทำให้บุรีรัมย์พลาดการคว้าแชมป์ไทยลีกสมัยที่ 7[43] ส่วนในการแข่งขันฟุตบอลถ้วยในประเทศ บุรีรัมย์ตกรอบ ช้าง เอฟเอคัพ ด้วยการพ่ายแพ้ต่อ ราชบุรี มิตรผล ในรอบรองชนะเลิศ[44] และในโตโยต้า ลีกคัพ บุรีรัมย์เข้าชิงชนะเลิศกับ พีที ประจวบ ที่สนามกลางอย่างเอสซีจีสเตเดียม แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ในการยิงลูกโทษ[45] ทำให้ในฤดูกาลนั้น ถ้าไม่นับไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพแล้ว บุรีรัมย์ไม่สามารถคว้าแชมป์ได้เลยแม้แต่รายการเดียว[46] "ธันเด้อ" มาสคอตประจำสโมสร ในฤดูกาล 2563 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ประเดิมการแข่งขันในรายการเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก รอบคัดเลือกรอบสอง โดยพวกเขาสามารถเปิดบ้านเอาชนะนครโฮจิมินห์ไปได้ 2–1[47] แต่ในรอบเพลย์ออฟ พวกเขาบุกไปพ่ายเซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี 0–3 ทำให้ไม่สามารถผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มได้[48] ส่วนในลีก บุรีรัมย์ก็ทำผลงานได้ไม่ดีเช่นกัน พวกเขาอยู่ในอันดับที่ 11 จาก 16 ทีม มีเพียง 4 คะแนนจากการลงเล่น 4 นัดก่อนพักลีกเนื่องจากการระบาดทั่วของโควิด-19 อีกทั้งในช่วงพักลีก สโมสรได้ยกเลิกสัญญาผู้เล่นต่างชาติแทบทั้งหมด ซึ่งรวมถึงอันเดรส ตุญเญซ ผู้เล่นแนวรับที่ลงเล่นให้กับสโมสรมาตั้งแต่ฤดูกาล 2557[49] และเมื่อลีกกลับมาแข่งขันอีกได้ไม่กี่นัด โบซีดาร์ บันโดวิช ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนหลังจากที่คุมทีมเปิดบ้านแพ้นครราชสีมา มาสด้า 1–2 และอาเลชังดรี กามา ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนของสโมสรในช่วงปี 2557–2559 ได้กลับเข้ามาคุมทีมต่อ ทำให้บุรีรัมย์กลับมามีผลงานในลีกที่ดีขึ้น จากที่เคยอยู่อันดับที่ 12 ก็สามารถขึ้นมาจบอันดับที่ 2 หลังจบฤดูกาลได้ อย่างไรก็ตาม สโมสรตกรอบฟุตบอลถ้วยรายการสำคัญอย่างช้าง เอฟเอคัพด้วยการพ่ายแพ้ต่อชลบุรี 2–1 ในรอบรองชนะเลิศ[50] ทำให้บุรีรัมย์ไม่สามารถคว้าแชมป์รายการหลักได้เป็นฤดูกาลที่สองติดต่อกัน 2564-ปัจจุบัน: กลับสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จ[แก้] ในฤดูกาล 2564–65 แม้ว่าสโมสรจะเริ่มต้นด้วยการทำผลงานในไทยลีกได้ดี โดยมีช่วงที่ชนะติดต่อกันถึง 6 นัด แต่พวกเขาก็มีสถิติที่ไม่ดีในการออกไปเยือนทีมใหญ่ด้วยกันเอง โดยในนัดที่ออกไปเยือนทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด, บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และชลบุรี ซึ่งเป็นคู่แข่งหัวตารางโดยตรง พวกเขาแพ้ทั้งสามนัดและยิงประตูไม่ได้เลย ทำให้สโมสรตัดสินใจแยกทางกับกามาหลังจบการแข่งขันนัดสุดท้ายของเลกแรกที่ทีมบุกไปเอาชนะลีโอ เชียงราย[51] โดยมีมาซาตาดะ อิชิอิ ผู้ฝึกสอนชาวญี่ปุ่นที่เพิ่งแยกทางกับสมุทรปราการ ซิตี้ เข้ามาคุมทีมต่อ[52] นอกจากนี้ ธีราทร บุญมาทัน อดีตผู้เล่นของทีมและผู้เล่นชาวไทยคนแรกที่ชนะเลิศลีกสูงสุดของญี่ปุ่นกับโยโกฮามะ เอ็ฟ มารินอส ก็ได้ย้ายกลับมาเล่นให้แก่สโมสรในรอบ 5 ปีด้วย[53] สุดท้าย บุรีรัมย์กลับมาประสบความสำเร็จด้วยการคว้าทริปเปิลแชมป์ในประเทศ ซึ่งประกอบด้วยไทยลีก เอฟเอคัพ และลีกคัพ[54][55][56] นับเป็นการคว้าทริปเปิลแชมป์ในประเทศครั้งแรกของสโมสรนับตั้งแต่ฤดูกาล 2558 ต่อมาในฤดูกาล 2565–66 สโมสรชนะเลิศไทยลีกสมัยที่ 8 สนาม[แก้] เขากระโดง สเตเดียม (2553–2554)[แก้] เขากระโดง สเตเดียม เป็นสนามเหย้าเดิมของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีความจุทั้งหมด 15, 000 ที่นั่ง สนามนี้เคยเป็นสนามขององค์การบริหารส่วนจังหวัด และถูกปรับปรุงใหม่ทั้งหมดเพื่อใช้รองรับการใช้งานไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก 2553 ของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์-การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยย้ายไปสนามแห่งใหม่ของตัวเองซึ่งมีความจุ 32, 600 คน คือ สนาม นิว ไอ-โมบาย สเตเดี้ยม ปัจจุบันก็ได้โอนสนามนี้ให้เป็นขององค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์เหมือนเดิมและบริเวณที่ว่างข้างสนามได้สร้างศูนย์ราชการศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์แห่งใหม่ ช้างอารีนา (2554–ปัจจุบัน)[แก้] ช้างอารีนา หรือชื่อที่ใช้ในการแข่งขันระดับทวีปว่า บุรีรัมย์ สเตเดียม (อังกฤษ: Chang ARENA, Buriram Stadium) ตั้งอยู่ที่ตำบลอิสาณ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ สนามแห่งนี้มีความจุ 35, 000 ที่นั่ง โครงสร้างประกอบด้วยเหล็กและไฟเบอร์ ซึ่งสร้างด้วยงบประมาณกว่า 500 ล้านบาท โดยเป็นเงินสนับสนุนของไอ-โมบาย และบางส่วนของนายเนวิน ชิดชอบ และจัดเป็นสนามฟุตบอลที่ได้มาตรฐานแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่ไม่มีลู่วิ่งคั่นสนามและผ่านมาตรฐานฟีฟ่า, เอเอฟซี และเอเอฟเอฟ และยังผ่านมาตรฐานระดับเอคลาสสเตเดียมจากเอเอฟซี และยังผ่านมาตรฐานระดับเวิลด์คลาสจากฟีฟ่า และยังได้บันทึกลงกินเนสบุค ว่าเป็นสนามฟุตบอลในระดับฟีฟ่าที่ใช้เวลาก่อสร้างน้อยที่สุดในโลกคือ 256 วัน[57] ภาพพาโนรามาของช้างอารีนา สโมสรคู่ปรับ[แก้] เมืองทอง ยูไนเต็ด[แก้] ภายหลังจากที่เนวิน ชิดชอบซื้อกิจการสโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บุรีรัมย์ได้กลายเป็นทีมชั้นนำและเป็นคู่แข่งในการแย่งแชมป์ไทยลีกกับเมืองทอง ยูไนเต็ดตั้งแต่ฤดูกาล 2553 ถึง 2560 โดยมีนัดการแข่งขันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญอยู่หลายนัด และการพบกันของทั้งคู่ได้รับความสนใจจากแฟนบอลเป็นอย่างมาก ก่อนฤดูกาล 2559 บุรีรัมย์มีสถิติที่ดีในการพบกับเมืองทองโดยพวกเขาไม่เคยแพ้เลย รวมถึงยังมีสถิติที่ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าคนสำคัญของเมืองทองไม่เคยยิงประตูใส่บุรีรัมย์ได้จนมีวลีที่กล่าวว่า "แพ้ใครแพ้ได้ แต่ไม่แพ้เมืองทอง" แต่ในการแข่งขันไทยลีก ฤดูกาล 2559 เลกแรก บุรีรัมย์ก็เสียสถิติไร้พ่ายนี้ เมื่อเมืองทอง ยูไนเต็ดสามารถบุกไปเอาชนะได้ 3-0 ซึ่งได้ 2 ประตูจากเคลย์ตง ซิลวา และอีก 1 ประตูจากอดิศักดิ์ ไกรษร ซึ่งเป็นอดีตผู้เล่นของบุรีรัมย์[58] หลังจากนั้นในฤดูกาลเดียวกัน บุรีรัมย์ก็แพ้ให้กับเมืองทองอีกสองนัด ได้แก่ เกมลีกเลกที่สองที่บุรีรัมย์บุกไปแพ้ 3–2 ซึ่งในนัดนั้นก็มีจังหวะจุดโทษที่เป็นปัญหาระหว่างจีโอกูและธีราทร บุญมาทัน และอีกนัดคือนัดที่บุรีรัมย์บุกแพ้ 3–1 ในการแข่งขันช้าง เอฟเอคัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย ทำให้บุรีรัมย์พลาดโอกาสคว้าแชมป์ในรายการนี้ นอกจากนี้ ทั้งสองทีมยังได้เข้าชิงชนะเลิศโตโยต้า ลีกคัพ 2559 แต่การแข่งขันถูกยกเลิกเพื่อไว้อาลัยแด่การสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ได้กลับมาพบกันในรอบ 8 ทีมสุดท้ายของโตโยต้า ลีกคัพ 2560 และเป็นเมืองทองที่เป็นฝ่ายบุกชนะ 2–0 ซึ่งธีราทรสามารถยิงประตูใส่ทีมเก่าได้ ส่วนในไทยลีกฤดูกาลเดียวกันนั้น บุรีรัมย์ไม่แพ้ในการเจอกับเมืองทอง โดยในเลกแรก พวกเขาเป็นฝ่ายเปิดบ้านเอาชนะไปได้ 2–0 ยุติสถิติชนะรวด 15 นัดของเมืองทอง ส่วนในเลกที่สอง ก็เสมอกันที่ธันเดอร์โดมสเตเดียม 1–1 สถิติ[แก้] ผลงานตามฤดูกาลแข่งขัน[แก้] ฤดูกาล ลีก[59] เอฟเอคัพ ลีกคัพ โตโยต้าพรีเมียร์คัพ ควีนสคัพ ถ้วย ก/แชมเปียนส์คัพ เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก เอเอฟซีคัพ อาเซียนคลับ แม่โขงคลับ ผู้ทำประตูสูงสุด ระดับลีก แข่ง ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย แต้ม อันดับ ชื่อ ประตู 2547/48 TPL 18 9 5 4 23 19 32 2 – GR ศุภกิจ จินะใจ 10 2549 22 6 12 DQ 7 2550 30 13 3 14 35 40 42 8 ธนา ชะนะบุตร 2551 38 15 61 1 รณชัย รังสิโย 16 2552 37 41 36 R4 รอบน็อคเอ้าท์ RU QR1 สุริยา ดอมไธสง 2553 17 51 63 ไม่ได้เข้าร่วม สุเชาว์ นุชนุ่ม 11 2554 34 26 64 85 W แฟรงค์ โอฮานด์ซา 2555 60 54 แฟรงค์ โอโปคู 2556 0 73 78 QF การ์เมโล กอนซาเลซ 2557 69 79 คาเบียร์ ปาตีโญ 21 2558 25 98 24 84 ดิโอโก 33 2559 TL 55 อันเดรส ตุญเญซ 2560 T1 27 86 ฌาฌา 2561 28 76 SF R16 จีโอกู 2562 58 GS สุภโชค สารชาติ 2563–64 20 ยกเลิกการแข่งขัน PO 2564–65 48 62 ศุภชัย ใจเด็ด 2565–66 75 74 2566–67 แชมเปียนส์ รองชนะเลิศ อันดับที่ 3 เลื่อนชั้น ตกชั้น กำลังแข่งขัน P = ผู้เล่น W = เกมที่ชนะ D = เกมที่เสมอ L = เกมที่แพ้ F = แต้มที่ได้ A = แต้มที่เสีย Pts = แต้ม Pos = อันดับล่าสุด TPL = ไทยพรีเมียร์ลีก T1 = ไทยลีก DQ = ถูกตัดสิทธิ์ QR1 = รอบคัดเลือกแรก QR2 = รอบคัดเลือกสอง QR3 = รอบคัดเลือกสาม QR4 = รอบคัดเลือกสี่ PO = รอบเพลย์ออฟ RInt = Intermediate Round R1 = รอบที่ 1 R2 = รอบที่ 2 R3 = รอบที่ 3 R4 = รอบที่ 4 R5 = รอบที่ 5 R6 = รอบที่ 6 GR = รอบแบ่งกลุ่ม R16 = รอบ 16 ทีม QF = รอบก่อนรองชนะเลิศ SF = รอบรองชนะเลิศ RU = รองชนะเลิศ S = ถูกแบ่ง W = ชนะเลิศ ผลงานระดับทวีป[แก้] การแข่งขัน รอบ คู่แข่ง เหย้า เยือน รวม รอบเพลย์ออฟ กองทัพสิงคโปร์ 1–4 (ต่อเวลา) กลุ่ม เอช บิ่ญเซือง 1–3 1–1 โฮม ยูไนเต็ด 2–1 วาเลนเซีย 4–1 3–1 คาชิวะ เรย์โซล 3–2 0–1 อันดับที่ 4 กว่างโจว 1–2 ช็อนบุกฮุนไดมอเตอส์ 0–2 2–3 บริสเบนรอร์ 0–0 (ต่อเวลา)(3–0 ลูกโทษ) กลุ่ม อี เวกัลตะ เซ็นได อันดับที่ 2 เอฟซีโซล 0–0 2–2 เจียงซู 2–0 รอบ 16 ทีมสุดท้าย บุนยอดกอร์ รอบก่อนรองชนะเลิศ เอสเทกลอล ชานตงไท่ชาน 1–0 โปฮัง สตีลเลอร์ส เซเรโซ โอซะกะ 0–4 กลุ่ม เอฟ ซ็องนัม กว่างโจวซิตี 5–0 กัมบะ โอซากะ แม่โขงคลับแชมเปียนชิพ รอบชิงชนะเลิศ เบืองเกตอังกอร์ 0–6 0–3 ซานเฟรชเช ฮิโรชิมะ ล้านช้าง ยูไนเต็ด กลุ่ม จี เชจูยูไนเต็ด เซเรซโซ โอซากะ 3–4 อูราวะ เรดไดมอนส์ เป่ย์จิงกั๋วอัน 2563 รอบคัดเลือกรอบ 2 โฮจิมินห์ซิตี เซี่ยงไฮ้พอร์ต 2565 แทกู 1–1 (ต่อเวลา)(2–3 ลูกโทษ) กลุ่มเอช เจ้อเจียง อันดับที่ เวนท์ฟอเรท โคฟุ เมลเบิร์นซิตี ผู้เล่น[แก้] ผู้เล่นชุดปัจจุบัน[แก้] หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ เลข ตำแหน่ง สัญชาติ ผู้เล่น GK ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน MF ศศลักษณ์ ไหประโคน DF พรรษา เหมวิบูลย์ ลีออน เจมส์ ธีราทร บุญมาทัน พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี FW นีโกเลา ดูมิตรู รัตนากร ใหม่คามิ รามีล ชีดาห์เยฟ ดียง กูลส์ ชิติพัทธ์ แทนกลาง นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม (กัปตันทีม) ยศพล เทียงดาห์ คาริส วุชกิช โกรัน เคาซิช สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ ลอนซานา ดูมบูยา 29 อาทิตย์ บุตรจินดา 44 ธนกฤต โชติเมืองปัก 49 ปิยวัฒน์ เปตรา ธวัชชัย อินทร์ประโคน 59 นพพล ละครพล เขมทัต ควรถนอม 70 จิรพงษ์ พึ่งวีรวงศ์ 77 ปริพรรห์ วงษา 89 พงศกร หาญรัตนะ 92 คิม มิน-ฮย็อก 95 เสกสรรค์ ราตรี ผู้เล่นที่ถูกยืมตัว[แก้] ชุติพนธ์ ทองแท้ (ไป พีที ประจวบ จนสิ้นสุดฤดูกาล) จักรกฤษ ลาภตระกูล (ไป พีที ประจวบ จนจบฤดูกาล) ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา (ไป เอาด์-เฮเฟอร์เลเลอเฟิน จนจบฤดูกาล) ภัทร สร้อยมาลัย (ไป เชียงใหม่ ยูไนเต็ด จนจบฤดูกาล) อิรฟาน ดอเลาะ (ไป อุทัยธานี จนสิ้นสุดฤดูกาล) 66 ชญตว์ จันซุย (ไป พิษณุโลก จนจบฤดูกาล) ภูมิวรพล วรรณบุตร (ไป คัสตอม ยูไนเต็ด จนจบฤดูกาล) 82 ธนิศร ไพบูลย์กิจเจริญ (ไป เชียงใหม่ ยูไนเต็ด จนจบฤดูกาล) — กิตติชัย ใยดี (ไป สมุทรปราการ ซิตี้ จนจบฤดูกาล) วินัย เอี่ยมโอด (ไป พิษณุโลก จนจบฤดูกาล) นวพรรษ เทียนไชย (ไป คัสตอม ยูไนเต็ด จนจบฤดูกาล) ธนดล ขาวสะอาด (ไป คัสตอม ยูไนเต็ด จนจบฤดูกาล) ธนวัฒน์ ทรายเพชร (ไป คัสตอม ยูไนเต็ด จนจบฤดูกาล) อาชัญ แก้วเพชร (ไป ราชนาวี จนจบฤดูกาล) ภควัต แต่งอักษร (ไป เอ็มเอช นครศรีฯ ซิตี้ จนจบฤดูกาล) ผู้เล่นชุดเยาวชน[แก้] 71 วีรวัฒน์ จันทา 72 ศักดินนท์ บุญเหลือ นิธิกร ศิริชู วชิรวิทย์ สุภเลิศ จักรภัทร บุญทิพย์ ศักดิเสกข์ โกศล รัชชานนท์ ธรรมส่องหล้า พีรวิชญ์ คิดรอบ ชนสิษฎ์ เหมราช พรรธวัตร เขตชมภู ดุษฎี บูรณะจุฑานนท์ จิตติพัฒน์ สุขไสว วัชรพงษ์ โคตรบรรเทา จิรเมธ จันทร์งาม จิรพล แซ่ลิ้ว โชติกะ เหมือนตา ณัฐดนัย อู่นาท วรฤทธิ์ มุงคุณ กฤตภาส หนูแย้ม รัฐภูมิ พานเขจร ณัฐปคัลภ์ พรมทองมี ชโนทัย คงเหม็ง บุคลากร[แก้] ผู้บริหาร[แก้] เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรคนปัจจุบัน กรุณา ชิดชอบ รองประธานสโมสรคนปัจจุบัน ประธานสโมสร เนวิน ชิดชอบ รองประธานสโมสร กรุณา ชิดชอบ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด กนกศักดิ์ ปิ่นแสง ผู้จัดการทีม บริพัทธ์ สูนรอด ผู้อำนวยการสายงานบัญชีและการเงิน อุสา สุวรรณชาตรี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการ ประมูลชัย นพสุวรรณวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร ศศิรดา สุทธิลักษณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าที่ระลึก ชิดชนก ชิดชอบ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาเยาวชน ชนม์ชนก ชิดชอบ แพทย์ประจำสโมสร ผศ. ((สตรีมมิ่ง<<<<)) เวนท์ฟอเรท กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชมการถ่า 46 นาทีที่ผ่านมา — (สตรีมมิ่ง<<<<)) เวนท์ฟอเรท กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชมการถ่ายทอดสดผล 04/10/2023 [JPN D2-6] เวนท์ฟอเรท โกฟุ, VS, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด [THA PR-3], 0.94, 0/-0.5, ...


About

The Globe Awards are similar to the Grammy Awards presented...

Events

  • true | 'BOOK YOUR WORLDWIDE CORE RADIO FEATURE'

bottom of page